จุดคัดเม่า by งงหุ้น
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณไม่อยาก”รวย” และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณคิดว่าเล่นหุ้นแล้วจะ
“รวย”
เราเหล่า”เม่า” มักเข้าตลาดหุ้นด้วยเสียงกระตุ้นจากรอบข้างว่า…เล่นหุ้นแล้วรวยนะ เห็นคนรอบตัวเปิดพอร์ตนั่งติดจอ โอ้ว มันเท่ห์จัง
เราต้องเอากับเขาบ้างละ
แล้วก็เข้าตลาดหุ้น เปิดพอร์ตด้วยความมุ่งมั่นว่าจะรวย บ้างก็ไม่ศึกษาข้อมูลอะไรเลย คิดว่าตลาดหุ้นมันสวยสดงดงาม
เราจะรวยเป็นล้าน ร้อยล้าน
พันล้านเหมือนที่เซียนๆเขาเขียนเขาเล่าไว้ในหนังสือได้แน่ๆ “Optimism”
เข้าตลาดมาด้วยความตื่นเต้น
“Excitement” เข้าตัวไหนดีนะ ฟังคนนู้นที
คนนี้ที ตัวนี้ดี ตัวนี้เจ๋ง ข่าวกำลังมาแล้ว สัญญานเทคนิคตัดขึ้นอย่างสวยงาม เค้าว่างบดี เราต้องซื้อตามเค้าแล้วหล่ะ เดี่ยวรวยไม่ทันเขา
เคาะขวาไป โอ้ว…พระเจ้าจอร์ช
มันยอดมาก ราคาขึ้นแล้ว ขึ้นอีก รวยจังกรู
ดีใจเว้ยเฮ้ย “Thrill” ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด รู้สึกว่าเรามาถูกทาง เราเจ๋ง เราเก่งจริงๆเลย
แบบว่า โคตรจะมั่นใจ ต่อไปจัดให้หนักกว่านี้!!
เคาะขวาทุกครั้ง
รวยทุกครั้ง ไม่อยากบอกว่ามั่นใจสุดๆแล้วตอนนี้ … “Euphoria” จุดที่ดูโหดสุดในการลงทุน
“Maximum Financial Risk but also maximum financial gain” หลังจากที่เราได้กำไรติดต่อกันมากๆ
ความโลภ ความทะเยอทะยานเริ่มสูง
ทำให้บางครั้งลืมตัวไปว่าบางทีความเสี่ยงในการลงทุนมันยังมีมากมายจากหลายปัจจัย
และแล้วก็มีปัจจัยภายในหรือภายนอกมาส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของเรา ราคามันไม่วิ่งไปอย่างที่คิดไว้ แทนที่จะทะลุแนวต้าน เป็น new
high ไฉนมันถึงเริ่มลง เริ่มลง “Anxiety” ความกังวลเริ่มเกิดขึ้น
แต่ใจก็ยังคงคิดว่า เชอะ…เดี่ยวมันก็ไปต่อ
ต่อไปสักพัก ทำไมนะ มันยังลง และลงอีกเรื่อยๆ
ไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้ “Denial”
แล้วต่อไปมันจะยังขึ้นอีกไหมหนอ
เราคิดอะไรผิดไปใช่ไหมนั่น
“Fear”
ความกลัวเริ่มบังเกิด สรุปว่าเราจะติดดอยมั้ย
มันจะขึ้นอีกมั้ย หรือเรารีบๆขายตอนนี้ไปก่อนดีกว่า ยังพอมีกำไรเหลืออันน้อยนิด
แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจ โอ้ว..ไว้ก่อน ยังไม่ขายดีกว่า
ณ จุดนี้ อยากจะบอกว่า ขาดทุนแล้วไม่น่าเลย ทำไมไม่ขายไปนะ “Desperation” จะกำไรแล้ว ทำไมนะทำไม
และแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ก่อนดูสถานการณ์ต่ออีกนิดละกัน
ไม่ได้แล้ว ไม่ได้แล้ว คนขายกันใหญ่เลย ทำไงดี ทำไงดี “Panic” ทำไมเป็นอย่างนี้ ขายไม่ทันแล้ว โอ้ย ขายที่ราคาไหนดีนะ ทำไมเค้า Panic Sell ขาย
จอดแดงกันขนาดนี้นะ
และแล้วราคามันก็ลงแล้ว
ลงอีกจนเราคิดว่ามันไม่น่ามีโอกาสขึ้นอีก
ยอมๆ ยอมแล้วก็ได้
ขายๆออกไปก่อน
ก่อนที่จะไม่มีทุนเหลือเลย “Capitulation”
เฮ้อ…หมด หมดกัน เราช่างไม่เหมาะกับการเล่นหุ้นเลย เงินที่สะสมมา
หมด หมดกัน “เลิกเล่นหุ้นดีกว่า” ไม่เอาอีกแล้ว… “Despondency” ซึ่งความจริงแล้วจุดนี้มักจะเป็นจุดที่มีโอกาสเก็บหุ้นและได้เงินมากที่สุด
“Point of Maximun Financial Opportunity”
เขาถึงชอบว่า เม่ามักออกตอนจุดต่ำสุด
“DEPRESSION” เสียใจ
เศร้าใจ หมดใจ ไม่เอาแล้วตลาดหุ้น มันไม่ใช่เรา
ณ จุดนี้ งงหุ้นขอเรียกจุดนี้ว่า “จุดคัดเม่า”
เป็นจุดที่เราจะคิดหนักว่าเราจะเลิกเล่นหุ้น
หรือว่าเราจะออกจากตลาดหุ้นไปดี
อีกนัยหนึ่ง จุดนี้จะเป็นจุดที่มีเม่าที่มีพลังฉุกคิดและกลับตัวกลับใจ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดกำเนิดของเพจ”งงหุ้น” เป็นจุดที่คิดว่าการเล่นหุ้นไม่ง่าย และ
หุ้น…เล่นไม่ได้
ต้องศึกษาอย่างจริงจัง เรามาลงทุนในกิจการดีกว่า
เริ่มหันมาศึกษาหาแนวทางที่เข้ากับตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งสำหรับงงหุ้นแล้วทางที่เหมาะที่สุดคือ “วีไอ หัวใจ เทคนิเคิล” คือ ลงทุนในธุรกิจที่เราสนใจ และเข้าใจ
โดยใช้เทคนิคช่วยในการเข้าลงทุน
พอเราเริ่มศึกษามากขึ้น
อ่านมากขึ้น เรียนรู้จากประสบการมากขึ้น
เราก็มีความหวัง “Hope” ที่จะก้าวหน้ามากขึ้น มองอนาคตและธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้น และพอเราได้ศีกษามี
จังหวะที่ดีขั้นก็ทำให้เข้าใจตลาดและเข้าลงทุนได้ถูกเวลามากขึ้น “Relief”
สิ่งที่สำคัญทีสุดคือ
เมื่อคุณผ่าน”จุดคัดเม่า” มาได้แล้ว อย่าย้อนกลับไปที่วงจรเดิมๆ
หรือถ้าได้กลับไปอีกครั้ง
คุณก็ต้องรู้ต้วว่าคุณควรจะปฏิบัติอย่างไรให้พ้นจุดอันตรายไปได้ ไม่เช่นนั้น คุณอาจโดนจุดคัดเม่า
คัดคุณออกจากตลาดได้
ด้วยความปรารถนาดีจาก
งงหุ้น
www.facebook.com/stockwhat
ถูกต้องที่สุดครับ ตอนกราฟพุ่งมีกำไร ก็ยึกยัก ๆ ไม่ยอมตัดเพราะอยากได้ กำไรเยอะๆ พอกราฟร่วง ก็คิดว่า รออีกหน่อยเดี๋ยวมันก็ขึ้น รอ ไป รอมา ราคาติดพื้น จะตัดก็ไม่กล้าตัด ทำไงละทีนี้ 555 (จัดไป 1 โหวตครับ โหวตให้ด้วยนะครบ http://www.thailandblogawards.com/entry/view/52)
ตอบลบผมไม่งง เพราะเล่นหุ้นไม่เป็น ขอโหวตให้เช่นกันครับ (20)
ตอบลบhttp://www.thailandblogawards.com/entry/view/416