วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

จุดคัดเม่า by งงหุ้น

จุดคัดเม่า by งงหุ้น

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณไม่อยากรวยและคงปฏิเสธไม่ได้ว่า คุณคิดว่าเล่นหุ้นแล้วจะรวย

เราเหล่าเม่ามักเข้าตลาดหุ้นด้วยเสียงกระตุ้นจากรอบข้างว่าเล่นหุ้นแล้วรวยนะ เห็นคนรอบตัวเปิดพอร์ตนั่งติดจอ โอ้ว มันเท่ห์จัง เราต้องเอากับเขาบ้างละ  แล้วก็เข้าตลาดหุ้น เปิดพอร์ตด้วยความมุ่งมั่นว่าจะรวย  บ้างก็ไม่ศึกษาข้อมูลอะไรเลย คิดว่าตลาดหุ้นมันสวยสดงดงาม เราจะรวยเป็นล้าน ร้อยล้าน พันล้านเหมือนที่เซียนๆเขาเขียนเขาเล่าไว้ในหนังสือได้แน่ๆ “Optimism”

เข้าตลาดมาด้วยความตื่นเต้น “Excitement” เข้าตัวไหนดีนะ  ฟังคนนู้นที คนนี้ที ตัวนี้ดี ตัวนี้เจ๋ง ข่าวกำลังมาแล้ว สัญญานเทคนิคตัดขึ้นอย่างสวยงาม  เค้าว่างบดี เราต้องซื้อตามเค้าแล้วหล่ะ  เดี่ยวรวยไม่ทันเขา

เคาะขวาไป  โอ้วพระเจ้าจอร์ช มันยอดมาก  ราคาขึ้นแล้ว ขึ้นอีก รวยจังกรู ดีใจเว้ยเฮ้ย “Thrill”  ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด รู้สึกว่าเรามาถูกทาง เราเจ๋ง เราเก่งจริงๆเลย แบบว่า โคตรจะมั่นใจ ต่อไปจัดให้หนักกว่านี้!!

เคาะขวาทุกครั้ง รวยทุกครั้ง ไม่อยากบอกว่ามั่นใจสุดๆแล้วตอนนี้  … “Euphoria” จุดที่ดูโหดสุดในการลงทุน “Maximum Financial Risk but also maximum financial gain” หลังจากที่เราได้กำไรติดต่อกันมากๆ ความโลภ ความทะเยอทะยานเริ่มสูง  ทำให้บางครั้งลืมตัวไปว่าบางทีความเสี่ยงในการลงทุนมันยังมีมากมายจากหลายปัจจัย

และแล้วก็มีปัจจัยภายในหรือภายนอกมาส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นของเรา  ราคามันไม่วิ่งไปอย่างที่คิดไว้  แทนที่จะทะลุแนวต้าน เป็น new high ไฉนมันถึงเริ่มลง เริ่มลง “Anxiety” ความกังวลเริ่มเกิดขึ้น แต่ใจก็ยังคงคิดว่า เชอะเดี่ยวมันก็ไปต่อ

ต่อไปสักพัก  ทำไมนะ มันยังลง และลงอีกเรื่อยๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่เราคิดไว้ “Denial” แล้วต่อไปมันจะยังขึ้นอีกไหมหนอ  เราคิดอะไรผิดไปใช่ไหมนั่น

“Fear” ความกลัวเริ่มบังเกิด สรุปว่าเราจะติดดอยมั้ย  มันจะขึ้นอีกมั้ย หรือเรารีบๆขายตอนนี้ไปก่อนดีกว่า ยังพอมีกำไรเหลืออันน้อยนิด แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจ  โอ้ว..ไว้ก่อน ยังไม่ขายดีกว่า

ณ จุดนี้  อยากจะบอกว่า ขาดทุนแล้วไม่น่าเลย  ทำไมไม่ขายไปนะ  “Desperation”  จะกำไรแล้ว ทำไมนะทำไม และแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ก่อนดูสถานการณ์ต่ออีกนิดละกัน

ไม่ได้แล้ว  ไม่ได้แล้ว คนขายกันใหญ่เลย  ทำไงดี ทำไงดี “Panic” ทำไมเป็นอย่างนี้ ขายไม่ทันแล้ว โอ้ย ขายที่ราคาไหนดีนะ  ทำไมเค้า Panic Sell ขาย จอดแดงกันขนาดนี้นะ

และแล้วราคามันก็ลงแล้ว ลงอีกจนเราคิดว่ามันไม่น่ามีโอกาสขึ้นอีก   ยอมๆ ยอมแล้วก็ได้  ขายๆออกไปก่อน  ก่อนที่จะไม่มีทุนเหลือเลย “Capitulation”

เฮ้อหมด หมดกัน เราช่างไม่เหมาะกับการเล่นหุ้นเลย  เงินที่สะสมมา  หมด หมดกัน เลิกเล่นหุ้นดีกว่า ไม่เอาอีกแล้ว “Despondency”  ซึ่งความจริงแล้วจุดนี้มักจะเป็นจุดที่มีโอกาสเก็บหุ้นและได้เงินมากที่สุด “Point of Maximun Financial Opportunity”  เขาถึงชอบว่า เม่ามักออกตอนจุดต่ำสุด

“DEPRESSION” เสียใจ เศร้าใจ หมดใจ ไม่เอาแล้วตลาดหุ้น มันไม่ใช่เรา   ณ จุดนี้ งงหุ้นขอเรียกจุดนี้ว่า จุดคัดเม่าเป็นจุดที่เราจะคิดหนักว่าเราจะเลิกเล่นหุ้น หรือว่าเราจะออกจากตลาดหุ้นไปดี  อีกนัยหนึ่ง จุดนี้จะเป็นจุดที่มีเม่าที่มีพลังฉุกคิดและกลับตัวกลับใจ  ซึ่งจุดนี้เป็นจุดกำเนิดของเพจงงหุ้น เป็นจุดที่คิดว่าการเล่นหุ้นไม่ง่าย และ หุ้นเล่นไม่ได้  ต้องศึกษาอย่างจริงจัง  เรามาลงทุนในกิจการดีกว่า เริ่มหันมาศึกษาหาแนวทางที่เข้ากับตัวเองได้มากที่สุด  ซึ่งสำหรับงงหุ้นแล้วทางที่เหมาะที่สุดคือ วีไอ หัวใจ เทคนิเคิล”  คือ ลงทุนในธุรกิจที่เราสนใจ และเข้าใจ  โดยใช้เทคนิคช่วยในการเข้าลงทุน

พอเราเริ่มศึกษามากขึ้น อ่านมากขึ้น เรียนรู้จากประสบการมากขึ้น  เราก็มีความหวัง “Hope”  ที่จะก้าวหน้ามากขึ้น  มองอนาคตและธุรกิจที่ก้าวไกลยิ่งขึ้น  และพอเราได้ศีกษามี จังหวะที่ดีขั้นก็ทำให้เข้าใจตลาดและเข้าลงทุนได้ถูกเวลามากขึ้น “Relief”

สิ่งที่สำคัญทีสุดคือ เมื่อคุณผ่านจุดคัดเม่ามาได้แล้ว  อย่าย้อนกลับไปที่วงจรเดิมๆ หรือถ้าได้กลับไปอีกครั้ง คุณก็ต้องรู้ต้วว่าคุณควรจะปฏิบัติอย่างไรให้พ้นจุดอันตรายไปได้  ไม่เช่นนั้น คุณอาจโดนจุดคัดเม่า คัดคุณออกจากตลาดได้

ด้วยความปรารถนาดีจาก
งงหุ้น
www.facebook.com/stockwhat



วันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ทำไมถึงอยากเล่นหุ้น โดย อภิษฎา มหัธนันท์

ทำไมถึงอยากเล่นหุ้น

ทำไมถึงอยากเล่นหุ้น??  คำถามสั้นๆง่ายๆได้ใจความนี้  แต่คำตอบหลากหลายนัก ซึ่งบางครั้งหลายคนคงยังไม่รู้คำตอบของตัวเองเช่นกันว่าทำไม….

คำตอบแรกที่คนส่วนมากเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพราะ อยากรวย คิดว่าการเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นนั้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ได้เงินง่ายๆ ยิ่งมีนักลงทุนเซียนๆในตลาดมากมายที่ย้ำว่าลงทุนในตลาดหุ้นนั้นทำให้เกิดความมั่งคั่งร่ำรวย ซึ่ง จากแสนอาจงอกเงยเป็นล้าน จากล้านเพิ่มเป็นร้อยเป็นพันล้านได้  ซึ่งในความเป็นจริงนั้นจะมีสักกี่คนที่รวยและประสบความสำเร็จได้แบบนั้นจริงๆ  จากนักลงทุน 100 คน  จะมีสักกี่คนที่รอดพ้นจากการขาดทุนในตลาดหุ้นได้ตลอดรอดฝั่ง

บ้างก็อยากมีอิสรภาพในการเงิน  ไม่ชอบทำงานประจำ  อยากให้เงินทำงาน  คิดแล้วก็ดูเป็นเหตุผลที่น่าสนใจ  แล้วจะต้องทำอย่างไรหล่ะเพราะการอยู่เฉยๆ คงไม่ทำให้เรารวยขึ้นได้  และในความเป็นจริง คงไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่ได้มาง่ายๆโดยที่ไม่รู้จักลงแรง   อยากมีเงินเดือนก็ต้องทำงาน  อยากมีเงินมากๆก็ต้องขยันทำมาหากิน  อยากมีอิสรภาพทางการเงินก็ต้องรู้จักขวนขวายหาความรู้ศึกษากิจการที่เราจะลงทุนอย่างถ่องแท้ เราถึงจะสามารถปล่อยให้เงินทำงานได้

บ้างก็คิดว่าเล่นหุ้นนั้นเท่ห์ดี  ดูมีเสน่ห์ ราศีจับ  เห็นบางคนเปิดจอ Streaming จ้องใหญ่ จ้องมันทั้งวัน  คนเล่นหุ้นไม่เป็นเห็นก็คิดว่า คนนี้เค้าเท่ห์จังเล่นหุ้นด้วย เห็นดูหน้าจอทั้งวันเลย  ซึ่งความจริงแล้วถ้าเรารู้จักการลงทุนในตลาดหุ้นจริงๆเราอาจจะไม่ต้องเสียเวลาอยู่หน้าจอ ประสาทเสียกับราคารายวัน รายนาทีก็ได้

ที่หนักสุดคือ  เรายังไม่รู้ตนเองเลยว่าทำไมเราถึงอยากเล่นหุ้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมากในการลงทุน  เพราะถ้าคุณไม่รู้จักตนเอง  ไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของตนเองนั้นคืออะไร  คุณก็ไม่อาจหาวิธีวางแผนให้สำเร็จตามเป้าหมายของคุณได้  ลองตั้งสติกันสักนิดก่อนที่จะสายเกินไป  นั่งพิจารณาตนเองกันหน่อยว่าแท้จริงแล้วเหตุผลที่แท้จริงในการเข้าตลาดหุ้นของคุณคืออะไร 

ถ้าเพราะคำว่ารวยก็อย่าลืมว่า  การอยู่เฉยๆนั้น ไม่ทำให้คุณรวยได้  การไม่ขยันหาความรู้ ศึกษาข้อมูลก็ไม่ทำให้คุณรวยได้ การคิดทำตามผู้อื่นโดยไม่รู้จักศักยภาพ ความถนัดของตนเองก็ไม่ทำให้รวยได้


เริ่มตั้งแต่วันนี้หาเหตุผลให้ตัวเองดีๆว่า ทำไมถึงอยากเล่นหุ้น”…………..

ด้วยความปรารถดีจาก งงหุ้น
www.facebook.com/stockwhat

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หุ้นมันเคยตกมาตั้งแต่สมัย”พ่อ” เราแล้ว……….

หลายคนคงพุดกันว่า ทำไมช่วงนี้หุ้นมันร่วงลงอยู่ได้ วันละ 20 30 40 จุด ดอยมันช่างหนาวเหน็บเหลือเกิน

ในงาน งงหุ้น Festival แอดมินได้นำประเด็นนี้มาพูดเหมือนกัน แต่อยากจะบอกว่า ตลาดหุ้นมันมีขึ้น ก็มีลงมาตลอด ไม่ว่าสมัยนี้ รุ่นพ่อ รุ่นปู่

จากภาพที่แอดมินไปขุดมาเจอ….จะเห็นได้ว่า ตลาดหุ้นของเราเคยไปแตะจุดต่ำสุดที่ 76 จุด ในปี 2519 ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้เราคงได้เป็นวีไอถือยาวจนออกลูกออกหลาน แต่เมื่อเจอจุดต่ำสุด มันย่อมมีจุดเด้งขึ้นเสมอ ตลาดในช่วงนั้นช่างตกต่ำไม่ว่าจะจากเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐประหาร สงครามอ่าว เศรษฐกิจที่ตกต่ำในต่างประเทศล้วนแล้วแต่มีผลต่อตลาดหุ้นของเราทั้งนั้น อย่างไรก็ดี “มีลง ย่อมมีขึ้น” หลังจากนั้นในปี 2536 ตลาดเข้าสู่ยุคทองคำของตลาดเงิน ตลาดวิ่งจาก 850 จุดไปสูงสุดที่ 1750 จุด( ปีนี้ใครซื้อหุ้นจะรวยมาก) อาจจะเหมือนปลายปีที่แล้วที่เราชาวเม่าแห่เข้าตลาด แต่อะไรถ้าดีเกินไป ก็มักมีความเสี่ยง ซึ่งปีนี้เป็นปีที่แมลงเม่าเข้าตลาดมากมาย และผลก็คือ ปีต่อมา แมลงเม่าก็ต้องตาย ซึ่งอาจคล้ายตลาดในช่วงนี้ และตลาดกลับไปลงต่ำสุดอีกครั้งในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่นักลงทุนยอมแพ้ ขาดทุนจากตลาดไปมากเหมือนกัน ใครอดทน ถือยาว ซื้อให้ช่วงนั้นก็รวยกันไปเลย

เห็นมั้ยค่ะ…ว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น มันไม่ง่าย มันเหมือนเหมือนซื้อผักปลาอาหาร มันต้องมีการศึกษา คิด วิเคราะห์ให้แตกฉาน นี่หล่ะ คือสาเหตุว่าทำไม งงหุ้นถึงอยากจัดมิตติ้ง งงหุ้น Festival ขึ้นมา และอยากค้นพบตัวเองว่าลงทุนสไตล์ไหนเหมาะกับตัวเองที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแนววีไอ แนวเทคนิค หรือหุ้นซิ่ง ทั้ง 3 แนวทางนี้ต่างต้องมีแนวทางปฏิบัติ ระเบียบ วินัยในตนเองทั้งสิ้น

หากคุณไม่มีวินัย ไม่ศึกษา คุณก็ไม่สามารถอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างยั่งยืนและปลอดภัยในตลาดไม่ว่าขาขึ้น ขาลง เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง และ “คุณ” จะเป็นคนจำกัดความเสี่ยงนั้น……

โปรดติดตามตอนต่อไป…..ส่วนหนึ่งจากงานงงหุ้น Festival

งงหุ้น

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สภาวะเลือกตั้ง



สภาวะเลือกตั้ง 

ใกล้เข้าถึงวันเลือกตั้งเข้าไปแล้วทุกที  แอดมินก็อดเอาการเลือกตั้งมาเทียบกับหุ้นไม่ได้  จะว่าไปมันก็มีอะไรคล้ายกันนะ

ก่อนจะเลือกตั้งบรรยากาศความดี ข่าวดี คนดีเต็มไปหมด ปกติไม่เห็นตามท้องตลาด ลำคลอง บนถนนหนทาง ประตูบ้าน ปากซอย ในซอย เก็บขยะ เข้าตลาด ลงน้ำก็ได้เห็นกันช่วงนี้  เหมือนเป็นช่วงเจ้าปั้นข่าว ปั้นกราฟไม่มีผิด อะไร อะไรก็ดูดีน่าเลือก น่าให้เข้าตา  

พวกเราประชาชนตาดำๆ ก็ค้นหากันใหญ่คนไหนหน้าเข้านะจะได้ทำให้บ้านเมืองเราเจริญเติบโต  เหมือนกับเรา หมู่เม่านั่งเผ้าหาหุ้นข่าวดีๆ กราฟสวยๆ น่าเข้าไปหมดเลย  ตอนนี้กราฟเราเข้าสู่จังหวะสูงขึ้น สูงขึ้น  

พอวันเลือกตั้งเท่านั้นหล่ะ  อย่างกะเม่าไปซื้อหุ้นบนดอย  ข่าวดี ความดีความชอบที่เจ้าเคยทำมันเหมือนกับเรื่องโกหก  อะไรที่เหมือนจะดี ก็เริ่มหมองหม่น   

วันตัดสินการเลือกตั้งก็เหมือนวันเจ้าทุบ ทุบไม่ยั้งความดีความชอบทีเคยทำมา หายไปไหนหมด ตลาด ลำคลอง ปากซอยที่เคยมาเดิน  ไปอยู่ไหนกัน   เม่าโดนทุบจม จม จมดิน  หายหมดความดี กำไรที่ใฝ่ฝัน  หายไปไหน????

…. พิมพ์ไปพิมพ์มาจะโดนปิดเพจป่าวว่ะ 555 แค่คิดเล่นๆนะ  อ่านขำๆ ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด  อ่านจบก็จบกันไป ห้ามวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการเมือง  ไปกินข้าวดีกว่า ^___^

www.facebook.com/stockwhat

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ปรากฎการณ์ เฟอร์บี้ ฟีเวอร์

ช่วงนี้"เฟอร์บี้ ฟีเวอร์" จริงๆ..........

ราคาเฟอร์บี้ขึ้นพรวดพราด จาก 3,000 บาท ขึ้นมาเป็น 4,000 บาท และบางเจ้าขาย 5,000 บาท Oh My God!!!! กระแสมันแรงจริงๆๆ ส่วนตัวแล้วซื้อกันเพราะอะไร??

- คนอื่นมีกันเลยต้องมี
- เท่ห์ตามกระแส
- เล่นแล้วสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจสุดๆ

ส่วนตัวแอดมินลองไปจับของเพื่อนๆดู คือมันก็ตลกดีที่ร้องๆเต้นๆได้ แต่เล่นไม่ถึง 5 นาทีก็เบื่อแล้ว รู้สึกว่าเอาเวลาไปอ่านหนังสือ หรือหาอะไรทำที่มีประโยชน์ดีกว่า

พูดมาตั้งนาน แค่จะบอกว่าปรากฎการณ์ "เฟอร์บี้ ฟีเวอร์" ก็เหมือนเวลาเราเล่น "หุ้นปั่น" พอคนเริ่มเฮกันซื้อเยอะๆ ก็ซื้อตามกันใหญ่ ความจริงแล้วอาจจะไม่ได้ต้องการอยู่แล้ว แต่แค่มีคนมากระตุ้นว่ามันเจ๋ง มันดี มีแล้วดูดี เราก็บ้าตามกันไป....เหมือนซื้อหุ้นปั่น รีบเข้าไป รีบซื้อไล่ราคาขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ แต่ถ้าวันนึงมันหมดความฮิตหล่ะ??? ราคาของมันจะตกไปเหลือเท่าไร??? ยังจะเหลือคุณค่าอะไรอีกมั้ย???

ไม่ได้จะโจมตีเฟอร์บี้...แค่คิดว่าอย่าเห่ออะไรตามกระแสมากเกินไป บางทีเราอาจจะไม่ต้องการมันจริงๆก็ได้.........หุ้นปั่นก็เหมือนกัน ศึกษาหาข้อมูลสักหน่อย อย่าคิดแต่ว่าจะรวย ซื้อๆตามคนเค้าว่ากัน สุดท้ายราคาอาจจะตกจนไม่เหลืออะไร และสุดท้ายจะมาพุดว่า "รู้งี้" ไม่ซื้อตั้งแต่แรกหรอก.....

ปล. เิวิ่นเว้อตามประสา เห็นเฟอร์บี้เต็มหน้า Facebook หลอนน 555 :P

#งงหุ้น


ติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/stockwhat

มือใหม่เลิกงงหุ้น

                                                     มือใหม่เลิกงงหุ้น


ด้วยความร้อนแรงของตลาดตอนนี้
  หลายๆคนคงเริ่มอยากเข้าสู่เส้นทางนักลงทุน  อยากเล่นหุ้น จะต้องรวยแน่ๆเลย  ดูสิคนรอบตัวรวยกันหมด….แน่ใจหรือ??? 

คุณรู้ได้อย่างไรว่าคนที่บอกว่ารวย  ก่อนหน้านี้ไม่เคยติดดอย ขายหมู หรือทุกตัวในพอร์ต รวย”  ถ้าคุณไม่เคยเห็นพอร์ตของเขา  อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่คุณยังไม่เห็น   อยากรวย รวยได้  เพียงแต่ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ ถ้าไม่ได้ศึกษา

ก่อนอื่นงงหุ้นขอรวบรวมข้อมูลพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับมือใหม่อยากเลิกงงหุ้นก่อนว่าจะต้องรู้อะไรบ้าง……

ข้อแรกที่สำคัญที่สุด รู้จักตัวเอง ข้อนี้สำคัญมาก  ถ้าคุณไม่รู้ว่าคุณรับความเสี่ยงได้แค่ไหน  คุณอาจจะต้องทุกข์ทนกับความโหดร้ายกับตลาดหุ้น  ที่มันไม่สวยหรูอย่างที่คุณคิดเลย  ค้นหาตัวเองเพิ่มเติมว่าคุณเป็นนักลงทุนแนวไหนได้ที่ http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=96&Itemid=70

ข้อที่สอง คุณต้องการลงทุนเพืออะไร  จะลงทุนแล้วคุณก็ควรต้องมีเป้าหมายว่าคุณจะลงทุนเพื่ออะไร  ระยะสั้น หรือ ระยะยาว ตั้งจุดมุ่งหมายแล้วก็ให้ทำตามอย่าละเลย  ไม่ใช่คิดว่าจะถือยาวเพราะเห็นกำไรนิดหน่อยก็ทนไม่ได้ขายหมู สุดท้ายอาจจะมานั่งบ่น "รู้งี้" ทีหลัง

อ่านไป คิดไป เริ่มอยากเปิดพอร์ตแล้วหล่ะสิ  ก่อนจะเปิดพอร์ตลองดูว่าอยากเปิดโปรคเกอร์ไหน  ส่วนตัวเอาที่สะดวกได้เลย  ถ้ามีคนรู้จักเป็นมาร์เก็ตติ้งก็ดีจะได้แนะนำได้  ลองแวะไปดูรายชื่อโบรคเกอร์ได้ที่ http://www.set.or.th/set/memberlist.do?language=th&country=TH

เปิดพอร์ตได้แล้ว  ไม่ใช่ได้ชื่อหุ้นมาแล้วไปซื้อเลยนะ  ศึกษาซะก่อนว่าบริษัทที่เราลงทุนเป็นบริษัทที่ลงทุนเกี่ยวกับอะไร  อยู่อุตสาหกรรมไหน  มีงบการเงิน P/E  P/BV กำไรขาดทุนเป็นอย่างไร  แวะไปหาข้อมูลหุ้นรายตัวเบื้องต้นได้ที่ http://www.set.or.th/set/commonslookup.do?language=th&country=TH  อ่านให้ละเอียดซะก่อนที่จะลงทุน  อย่าสักแต่เคาะขวา  ซื้อ ซื้อ ซื้อแล้วยังไม่รู้เลยว่าบริษัททำเกี่ยวกับอะไร    แล้วก็อย่าลืมเช็คสักหน่อยว่าหุ้นที่เราลงทุนนั้นมีปันผลรึป่าว http://www.settrade.com/C04_07_stock_rightsandbenefit_p1.jsp?txtSymbol=INTUCH&selectPage=7  ลงทุนทั้งทีต้องเอาให้คุ้มนะจ๊ะ    อ้อ.....รู้อีกสักหน่อยว่าบริษัทที่เราลงทุนนั้นใครเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่  รู้จักเจ้าสักนิด ชีวิตอาจจะดีขึ้น  http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fin2/daily59.php?order=COMP  

ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลแบบเบื้องต้นมากๆๆ  อย่างน้อยก่อนจะเคาะขวา  ดูตาม้า ตาเรือสักนิด   ไม่ใช่คนอื่นถามว่าลงทุนตัวไหน  ยังตอบไม่ได้ว่าที่ซื้อมาเป็นบริษัทอะไร  แล้วเค้าขายหรือทำอะไรอยู่  อายเค้านะค่ะ  จะติดดอย ก็รู้สักหน่อยว่าดอยอะไร นะคะนะ อิอิ

เริ่มต้นง่ายๆให้หายงงหุ้นนะคะ   แล้วเจอกันใหม่  จะพยายามหาข้อมูลดีๆมาแบ่งปันเรื่อยๆนะคะ   

เกาะติดงงหุ้นได้ที่ www.facebook.com/stockwhat ขอบคุณค่ะ


วันจันทร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2556

วิถีคนเม่า....งงหุ้นสไตร์

วิถีคนเม่า....งงหุ้นสไตร์

มีคนไม่น้อยเิริ่มเข้าตลาด  ด้วยความคิดที่ว่า "อยากรวย" เราจะได้เงินเยอะๆจากตลาดหุ้นนี่หล่ะ  ว่าแล้วก็เปิดพอร์ตกันเลย  ฟังมาเยอะแล้วว่าเล่นหุ้นนี่หล่ะ  รวยเร็ว จาก 1 ล้าน เป็น 50 ล้าน  จากจนเป็นรวยกันว่าเล่น  เอาว่ะ  เปิดพอร์ต เปิดพอร์ต รวยแน่.....ที่ว่ารวยกัน  ทุกคนรวยอย่างนั้นหรือ....แล้วเค้ารวยกันง่ายๆจริงหรือ??

ถามตัวเองซักหน่อยก่อนที่จะเปิดพอร์ต  คุณคิดว่าคุณจะได้อะไรจากการเปิดพอร์ต "เงิน" .... จริงหรือ??
คุณคิดว่าคุณจะทำอย่างไรที่จะได้กำไรจากการเ่ล่นหุ้น....ฟังตามโบรคชื่อดัง  ฟังตามคนเก่งๆ  ฟังตามคนนู้นทีคนนี้ที....อย่างนั้นทำให้รวยจริงๆหรือ???   

ชีวิตจริงคงไม่ง่ายอย่างนั้น  หลายครั้งที่เราฟังคนอื่น  ทำให้เราตัดสินใจอย่างรวดเร็วจนไม่ได้คิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน   ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาเราได้หุ้นเด็ดมา  ด้วยอารมณ์ที่อยากได้เิงิน โลภ และแรงบีบที่ว่า เดียวมันจะขึ้นแ้ล้วนะ .... โลภ เงิน ขึ้น กดซื้ออย่างรวดเร็ว  ยิ่ง Volume ขวามันบีบบังคับที่จะไปต่อเรื่อยๆ สติสัมปะชัญญะของเม่าเริ่มลดลง  และสุดท้ายกดซื้อ  ซึ่งบางทีอาจจะเป็นราคาที่สูงและสุดท้าย "ติดดอย"  ทำไงหล่ะ  ถ้าเป็นหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีหน่อย  เราก็อาจจะลุ้นได้บ้างว่าต่อไปธุรกิจโตขึ้น  ราคามันอาจจะปรับขึ้น   ส่วนถ้าเป็นพวกหุ้นปั่นไม่มีพื้นฐานอาจแย่หน่อยจนสุดท้ายต้องจำใจ "Cut Loss"    สุดท้ายได้แต่บ่น "รู้งี้" ไม่น่าเลย  น่าจะขายก่อนหน้านี้  ไม่น่าโลภเลย อะไรก็ว่าไป ขาดทุนไปแล้วหนิ  ทำอะไรได้อีก

"เปลี่ยนเถอะค่ะ"  เิ่ริ่มเปลียนที่ตัวเอง  อาจจะยากหน่อย เพราะตัวงงหุ้นเอง  ก็ยังเม่าอยู่  เพียงแต่พักหลังอาจจะมีสติหน่อยเวลาได้หุ้นมา  หาข้อมุลสักหน่อยว่าบริษัทนั้นทำอะไร  อยู่ในอุตสาหกรรมไหน  มีงบกำไรขาดทุนอย่างไร  ดูกราฟประกอบสักหน่อยว่าทางเทคนิคดีมั้ย  .... ทุกสิ่งทุกอย่างอาจจะยากในการเปลียน  แต่ถ้าเราพยายาม  ค่อยๆเป็นค่อยๆไป  ค่อยๆปรับมุมมอง  คงไม่มีอะไรยากเกินปรับปรุง

"เปลี่ยน" จากการที่จะถามว่าเลุ่นหุ้นตัวไหนดี  เป็นเลือกลงทุนในบริษัทไหนดี  ทำไมถึงเลือกลงทุนบริษัทนั้นๆ  คิดว่าจะเติบโตต่อไปเพราะอะไร  อะไรเป็นแรงผลักดันในการเจริญเติบโต

เราอาจจะมองว่ามันยาก  ตัวงงหุ้นเองก็ว่ายาก  แต่ก็คิดว่า "ไม่มีอะไรที่ยาก เกินการเรียนรู้"  ค่อยๆปรับ  หาความรู้วันละนิด  สักวันเราจะหาย "งง และ รวย ไปพร้อมๆกัน" นะคะ

ปล. เขียนบล๊อคครั้งแรกสไตร์งงหุ้น  ภาษาก็เป็นภาษางงหุ้น  อย่าว่ากันนะฮ้าฟฟฟ ^___^

แวะไปกดไลด์ได้ที่เพจ www.facebook.com/stockwhat นะค่ะ